การใช้สารเคมีในห้องปฏิบัติการอย่างปลอดภัย
สารเคมีทุกชนิดมีอันตรายมากน้อยแตกต่างกัน
ผู้ปฏิบัติการทดลองทางเคมีควรที่จะต้องรู้ถึงอันตรายจากสารเคมีเหล่านี้
วิธีที่จะช่วยลดอันตรายจากสารเคมีได้คือ
ถ้าเป็นไปได้พยายามหลีกเลี่ยงสารที่เป็นพิษ ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรใช้อย่างระมัดระวัง
เช่น การใช้กรดเข้มข้นในการทดลองจะต้องเทในตู้ควัน
อันตรายจากสารเคมีต่อสุขภาพของคนเกิดจากสารเคมีเข้าไปในร่างกาย
ซึ่งเข้าได้ 3 ทาง คือ ทางปาก ทางจมูก และทางผิวหนัง
สารเคมีบางชนิดเมื่อเข้าไปในร่างกายอาจทำลายได้บางชนิด อาจถูกขับออกทางปัสสาวะ
บางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับสารอื่น ๆ ได้สารใหม่เกิดขึ้นและและออกฤทธิ์เมื่อมีความเข้มข้นมากพอ
ด้วยเหตุนี้การใช้สารเคมีจึงจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
เพื่อหาทางป้องกันไว้ก่อน
การกำจัดสารอันตรายที่หกหล่น รั่วไหล
เมื่อสารเคมีหกอาจเกิดอันตรายได้หากไม่ระมัดระวัง
เพราะสารเคมีบางชนิดเป็นพิษต่อร่างกาย บางชนิดติดไฟง่าย
ดังนั้นเมื่อสารเคมีหกจะต้องรีบเก็บกวาดให้เรียบร้อยทันทีดังต่อไปนี้
สารที่เป็นของแข็ง
สารเคมีที่เป็นของแข็งหก ควรใช้แปลงกวาดรวมกันใส่ในช้อนตักแล้วจึงนำไปใส่ในภาชนะ
สารละลายที่เป็นกรด
เมื่อกรดหกต้องรีบทำให้เจือจางด้วยน้ำก่อนแล้วโรยโซดาแอส
หรือสารละลายด่างเพื่อทำให้กรดเป็นกลางจากนั้นจึงล้างด้วยน้ำสะอาด
ข้อควรระวัง
เมื่อเทน้ำลงบนกรดเข้มข้นที่หก เช่น กรดกำมะถัน จะมีความร้อนเกิดขึ้นและกรดอาจกระเด็นออกมา
จึงควรเคย ๆ เทน้ำลงไปมาก ๆ
เพื่อให้เกิดการเจือจางและความร้อนที่เกิดขึ้นรวมทั้งการกระเด็นจะน้อยลง
สารละลายที่เป็นด่าง
เมื่อสารเคมีที่เป็นของด่างหก
ต้องเทน้ำลงไปเพื่อลงความเข้มข้นของด่างแล้วเช็ดให้แห้งพยายามอย่าให้กระเด็นขณะเช็ด
เนื่องจากสารละลายด่างจะทำให้พื้นลื่น
สารที่ระเหยง่าย
เมื่อสารเคมีที่ระเหยง่ายหกจะระเหยกลายเป็นไออย่างรวดเร็วบางชนิดติดไฟได้ง่าย
บางชนิดเป็นอันตรายต่อผิวหนังและปอด การทำความสะอาดสารระเหยง่ายทำได้ดังนี้
4.1 ถ้าสารที่หกมีปริมาณน้อย
ใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดถูออก
4.2 ถ้าสารที่หกมีปริมาณมาก
ทำให้แห้งโดยใช้ไม้ที่มีปุยผูกที่ปลายสำหรับเช็ดถู
สารที่น้ำมัน
สารพวกนี้เช็ดออกได้โดยใช้น้ำมาก ๆ
เมื่อเช็ดออกแล้วพื้นบริเวณที่สารหกจะมีกลิ่นให้ล้างด้วยผงซักฟอก
เพื่อสารที่ติดอยู่ออกไปให้หมด
สารปรอท
สารปรอทไม่ว่าอยู่ในรูปไดล้วนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทั้งสิ้นเพราะทำอันตรายต่อระบบประสาท
ดังนั้นการทดลองใดที่เกี่ยวข้องกับสารปรอทต้องใช้ความระมัดระวังให้
กรณีที่สารปรอทหกวิธีการที่ถูกต้องควรปฏิบัติดังนี้
6.1 กวาดสารปรอทมากองรวมกัน
6.2 เก็บสารปรอทโดยใช้เครื่อง ดังรูปภาพ
6.3 ถ้าพื้นที่สารปรอทหกหรือรอยร้าว
ควรปิดรอยแตกด้วยขี้ผึ้งทาพื้นหนา ๆ
เพื่อกันการระเหยของปรอทหรือหรือใช้ผงกำมะถันพรมลงไป
ปรอทจะเปลี่ยนเป็นสารประกอบซัลไฟลด์ แล้วเก็บกวาดอีกครั้งหนึ่ง
ทักษะการใช้เครื่องแก้ววัดปริมาตร
อุปกรณ์วัดปริมาตรของเหลวได้แก่
ขวดปริมาตร บิวเรตต์ ปิเปต และกระบอกตวง
การอ่านปริมาตรของเหลวที่ถูกต้องในอุปกรณ์เหล่านี้
ต้องอ่านในระดับเดียวกับจุดต่ำสุดของส่วนโค้งเว้า
ตำแหน่งของระดับสายตาในการอ่านปริมาตร
มีความสำคัญต่อค่าที่ได้จากการอ่านปริมาตรมากกล่าวคือ
ถ้าระดับสายตาอยู่เหนือส่วนโค้งเว้าต่ำสุดของของเหลว
ปริมาตรที่อ่านจะมากกว่าปริมาตรจริง
ถ้าระดับสายตาอยู่ระดับเดียวกับส่วนโค้งเว้าต่ำสุดของของเหลว
ปริมาตรที่อ่านจะมีค่าถูกต้อง
ถ้าระดับสายตาอยู่ต่ำกว่าส่วนโค้งเว้าต่ำสุดของของเหลว
ปริมาตรที่อ่านจะน้อยว่าปริมาตรจริง
ทักษะการใช้ขวดปริมาตร
ขวดปริมาตรเป็นเครื่องมือที่ใช้เตรียมสารละลายมาตรฐานหรือสารละลายที่เข้มข้นน้อยกว่าสารละลายเดิมได้
ขวดปริมาตรมีหลายขนาด เช่น ขนาด 50
มล. 100 มล. 250 มล. 500
มล. 1000 มล. 2000 มล.
เป็นต้น
ภาพที่ 4 ลักษณะของขวดปริมาตร
ภาพที่ 4 ลักษณะของขวดปริมาตร
โดยทั่วไปจะนำสารละลายนั้นละลายในบีกเกอร์ก่อนแล้วเทลงในขวดปริมาตรโดยใช้กรวยกรอง
จากนั้นเติมตัวทำละลายไปให้ปริมาตรถึงขีดบอกปริมาตร
การเตรียมสารละลายโดยใช้ขวดปรับปริมาตรมีเทคนิคดังนี้
ละลายสารในขวดปริมาตรมีประมาณ ? ของขวด
ปิดจุกแล้วหมุนขวดปริมาตรด้วยข้อมือ
เติมตัวทำละลายลงในขวดปริมาตรให้ส่วนโค้งเว้าต่ำสุดอยู่ตรงขีดบอกปริมาตร
การต้องอ่านระดับสายตาในระดับเดียวกัน เพื่อป้องกันการอ่านปริมาตรผิด
ปิดจุกขวดปริมาตรคว่ำขวดจากด้านบนลงล่าง
ทำแบบนี้ 2 – 3 ครั้ง
เพื่อให้สารละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
จากข้อ 3 กลับขวดปริมาตรอยู่ลักษณะเดิม
จับคอขวดหมุนไปมา ? รอบ เพื่อให้สารละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น